Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.tnsumk.ac.th/handle/123456789/37
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorรัตนาพร กองพลพรหม-
dc.date.accessioned2021-09-26T05:16:29Z-
dc.date.available2021-09-26T05:16:29Z-
dc.date.issued2552-
dc.identifier.urihttps://ir.tnsumk.ac.th/handle/123456789/37-
dc.description.abstractการคิดเชิงระบบเป็นการคิดที่มีลักษณะเป็นวิทยาการ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหลาย ๆ สาขาวิชาการ เพราะวิธีคิดดังกล่าวมีจุดเน้นอยู่ที่การมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างทุกปัญหาที่เกิดเป็นไปอย่างเชื่อมโยงกัน สัมพันธ์กัน การเกิดขึ้นของสิ่งหนึ่งย่อมหมายถึงการที่จะต้องมีผลกระทบของอีกหลายๆสิ่งเกิดขึ้นตามมาด้วยกล่าวคือทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุ มีปัจจัยที่ทำให้เกิด ดังนั้นการแก้ปัญหาเชิงระบบจึงต้องมองถึงภาพรวมของปัญหาและบริบทของสภาพแวดล้อมของปัญหานั้น ๆ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนากลวิธีการสอน สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันการ พลศึกษา โดยวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ รายวิชาการเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 3 นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการสอน ด้วยกลวิธีการสอนโดยวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ เปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนก่อนและหลังการเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อแผนการสอนเพื่อพัฒนากลวิธีการสอนโดยการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการสอนเพื่อพัฒนากลวิธีการสอนโดยการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ รายวิชาการเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 3 จำนวน 11 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 60 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.67 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.75 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อแผนการสอนเพื่อพัฒนากลวิธีการสอนโดยการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า แผนการสอนเพื่อพัฒนากลวิธีการสอนโดยการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันการพลศึกษา โดยวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.99 / 81.30 มีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6360 ซึ่งหมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 63.60 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยแผนการสอนโดยการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบ โดยรวมอยู่ในระดับมาก การจัดการเรียนรู้ด้วยแผนการสอนเพื่อพัฒนากลวิธีการสอนโดยการวิเคราะห์การคิด เชิงระบบช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความพึงพอใจในการเรียนรู้ แผนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ในการจัดกระบวนเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น และสามารถประยุกต์การคิดเชิงระบบไปใช้ในชีวิตประจำวันได้en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคามen_US
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International-
dc.rights.urihttp://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/-
dc.subjectบริบทของสภาพแวดล้อมen_US
dc.subjectการวิเคราะห์การคิดเชิงระบบen_US
dc.subjectการแก้ปัญหาเชิงระบบen_US
dc.subjectการพัฒนากลวิธีการสอนen_US
dc.titleการพัฒนากลวิธีการสอนสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันการพลศึกษา: วิเคราะห์การคิดเชิงระบบen_US
dc.title.alternativeThe Development of the Teaching Tactics for Bachelor Degree Students in The Institute of Physical Education : Systems Thinking - Based.en_US
dc.typeResearchen_US
Appears in Collections:รายงานการวิจัย

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Rattanaporn_Kongpolprom_res_2552.pdf2.11 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons