กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.tnsumk.ac.th/handle/123456789/54
ชื่อเรื่อง: | รูปแบบการเรียนการสอนอ่านงานเขียนทางวิชาการที่ใช้กลวิธีการเรียนภาษาเป็นฐานสำหรับนักศึกษาวิชาเอกพลศึกษา กีฬา และนันทนาการ ระดับอุดมศึกษา |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | An Instructional Model of Language Learning Strategies-Based English Academic Reading Instruction in Physical Education, Sports, and Recreation Major Tertiary Students |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ประวิทย์ หวานขม พิมลพรรณ โรจนชีวินสุภร |
คำสำคัญ: | พลศึกษา วิทยาศาสตร์การกีฬา นันทนาการ |
วันที่เผยแพร่: | 2010 |
สำนักพิมพ์: | สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม |
บทคัดย่อ: | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษากลวิธีการเรียนภาษาของนักศึกษาวิชาเอกพลศึกษา กีฬา และนันทนาการ และพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอ่านงานเขียนทางวิชาการที่ ใช้กลวิธีการเรียนภาษาเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างและกลุ่มเป้าหมายของการวิจัยคือ นักศึกษาชั้นปี ที่ 1-5 สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคามจำนวน 192 คน โดยการลุ่มอย่างง่าย และนักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิชาเอกวิทยาศาสตร์การกีฬาและผู้ฝึกสอนกีฬา คณะวิทยาศาสตร์การ กีฬาและสุขภาพ จำนวน 12 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้โนการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามกลวิธีเรียนภาษาตามการรับรู้ รูปแบบการเรียนการสอน แผนจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนการสอน แบบทดสอบผลลัมฤทธิ์การอ่าน และแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้กลวิธีการเรียนภาษา ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้คือ การวิจัยเชิงสำรวจ และการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom Action Research) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูลประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Wilcoxon Signed Rank Test ผลการวิจัยพบว่า 1. กลวิธีการเรียนรู้ภาษาที่นักศึกษาวิชาเอกพลศึกษา วิทยาศาสตร์การกีฬา และนันทนาการ นำมาใช้ในการอ่านบทความภาษาอังกฤษเชิงวิชาการมากที่สุดเรียงลำดับ จากมากไปน้อย คือ กลวิธีการใช้ระบบการจำ (if = 3.83 S.D. = 0.47) กลวิธีการใช้ส่งทดแทน ( r = 3.82 S.D. = 0.56) กลวิธีการลือสารในสังคม ( r = 3.79 S.D. = 0.65) และกลวิธีการใช้การคิด (r = 3.77 S.D. = 0.56) 2. รูปแบบการเรียนการสอนอ่านงานเขียนทางวิชาการ โดยใช้กลวิธีการเรียนรู้ ภาษาเป็นฐาน ประกอบด้วย 3 ชั้นหลัก คือ ชั้นเตรียมความพร้อม ชั้นสอน และชั้นสรุป โดยแต่ละ ชั้นหลักประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนย่อยดังนี้ ชั้นเตรียมความพร้อม มี 3 กิจกรรมย่อย คือ (1) เร้าความสนใจ สร้างแรงจูงใจ (2) แจ้งวัตถุประสงค์ในการเรียนการสอน (3) ทบทวนความรู้เดิม ให้ความรู้ภูมิหลัง ชั้นสอน มี 1 กิจกรรมย่อย คือ 4. สอนกลวิธีการเรียนภาษา โดย 4.1 ชั้นเตรียมการ 4.2 ชั้นเป็นต้นแบบ 4.3 ชั้นฝึกปฏิบัติ 4.4 ชั้นการประเมินผลตนเอง 4.5 ชั้นการขยาย 4.6 ชั้นประเมินผล 4.7 ประเมินความเช้าใจ ชั้นสรุป มี 2 กิจกรรมย่อยคือ 5 สรุป เรื่องที่อ่านและกลวิธีเรียนภาษา 6 ประเมินผล สะท้อนผล และให้ข้อมูลป้อนกลับ ได้แผนการ จัดการเรียนรู้ 9 แผน ผ่านกระบวนการพัฒนาประสิทธิผลด้วยการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน จำนวน 3 วงจร และรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิผล กล่าวคือ คะแนนสอบ หลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีผลระดับการปฏิบัติในการใช้กลวิธีการเรียน ภาษา ระดับ “มาก” ( X = 3.56 S.D. = 0.33) |
URI: | https://ir.tnsumk.ac.th/handle/123456789/54 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | รายงานการวิจัย |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
Prawit_Whankhom_res_2553.pdf | 1.39 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License